พนักงานไม่เพียงพอ
ผู้ใช้รอสายนาน
เสียเวลาในการสอนพนักงานใหม่ๆ
ทำงานได้ตลอด 24 ชม.
การลดค่าใช้จ่าย
ไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์
ตัวอย่างของ Inbound Voicebot ในการรับสายให้บริการลูกค้า
ตัวอย่างของ Outbound Voicebot ในการโทรออกไปยังลูกค้า
เป็นปัญหาที่ทุกคนพบเจอ เวลาต้องติดต่อเพื่อสอบถามเรื่องต่าง ๆ เช่น อาจจะเป็นการจอง อยากเข้าไปดูโครงการ หรืออาจจะติดต่อขอข้อมูลการทำวีซ่า หรือจองตั๋วเครื่องบิน เปลี่ยนตั๋ว สอบถามแต้มบัตรเครดิต หรืออยากจะโทรเพื่อแจ้งซ่อม นัดช่างมาติดตั้ง อาจจะเป็นเรื่องเคลมประกัน หรือว่าแจ้งอุบัติเหตุ
ปัญหาดังกล่าวคือ รอสายนาน เนื่องด้วยจำนวนพนักงานบริการมีจำนวนจำกัด ผมเชื่อว่าปัญหานี้น่าจะสามารถถูกแก้ไขได้ด้วย Voicebot ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่ต่อยอดมาจาก chatbot โต้ตอบทางข้อความ วันนี้เราสามารถโต้ตอบผ่านเสียงทางโทรศัพท์ อย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนการคุยกับพนักงานมนุษย์ และการมาของ GenAI ยิ่งทำให้การพัฒนา Voicebot ที่ฉลาดเป็นไปได้มากขึ้น
การที่ AWS ซึ่งเป็นบริษัทระดับโลกมาช่วย นอกจากการเป็นผู้นำด้าน technology แล้ว เรื่อง cloud infrastructure ที่ได้มาตรฐานสูงสุด จะสร้างความมั่นใจในการใช้งานกับธุรกิจต่าง ๆ และ AWS กำลังจะเปิดบริการ cloud ในประเทศไทย ซึ่งจะลดข้อจำกัดการใช้งานกับหลาย ๆ หน่วยงานที่ข้อมูล data ต้องอยู่ในประเทศ
สุดท้ายผมเชื่อว่าปี 2025 จะเป็นปีที่หลาย ๆ บริษัทจะเริ่มนำมาใช้ เพื่อให้บริการลูกค้า ผมเองในฐานะลูกค้าของหลาย ๆ บริษัท ก็อยากจะเห็นการบริการที่รวดเร็ว ไม่ต้องรอสายนานเช่นกัน จึงอยากเชิญชวนธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงภาครัฐมาพัฒนา Voicebot กัน เพื่อทำให้การบริการลูกค้าและประชาชนดีขึ้นนะครับ
Dr. Winn Voravuthikunchai
CEO AT BOTNOIGROUP